Page 9 - รายงานการสร้างนวัตกรรม นายวิทยา อำพล
P. 9
3
การทำงานร่วมกันในลักษณะชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพจึงถือเป็นกระบวนการทำงานท ี่
ส่งผลให้เกิดการพัฒนาที่เป็นรูปธรรม สอดคล้องกับ DuFour และคณะ (2010: 9 – 14) ที่ระบุว่าชุมชน
การเรียนรู้ทางวิชาชีพเป็นการรวมกลุ่มบุคคลที่มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในประเด็นที่แต่ละคนให้
ื่
ความสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาทางการศึกษาที่เชื่อว่าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ที่ทำให้การสอ
ี่
้
ื่
ความหมายระหว่างกลุ่มบุคคลที่มีเปาหมายเดยวกันพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันจนเกิดการสอสารทมี
ี
ประสิทธิภาพ ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเป็นกระบวนการทำงานที่มีความต่อเนื่องที่มีการดำเนินการ
ื
ภายใต้วงจรของการวิจัยปฏิบัติการ เพื่อให้เกิดการสบเสาะแสวงหาความรู้ และพัฒนาการทำงานอย่าง
ต่อเนื่อง สอดคล้องกับ Bulkley และ Hicks (2005 : Web Site) ที่ระบุว่าชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชพ
ี
ของโรงเรียนเป็นลักษณะของปฏิสัมพันธ์ที่ต่อเนื่องระหว่างครูผู้สอนเกี่ยวกับการปฏิบัตงานการเรียนการ
ิ
สอน รวมทั้งการเรียนรู้ของครูผู้สอนและนักเรียน ทั้งยังเป็นลักษณะของกลุ่มคนที่มีการแลกเปลี่ยนและ
ิ
ั
พูดคุยในเชิงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการปฏิบติงานในชีวิตประจำวัน รวมทั้งการสะท้อนผลการปฏิบัตงาน
และร่วมมือกันปฏิบัติงานโดยมุ่งเน้นการเรียนรู้และส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิชาชีพโดยการปฏิบัติงาน
ของครูเป็นลักษณะของการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน (Collective enterprise) โดยมีเป้าหมายของ
ื
การปฏิบัติงาน คือ เพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการปฏิบัติงานของครูให้เป็นครูมืออาชีพที่มุ่งสู่เป้าหมายคอการ
เรียนรู้ของนักเรียน (Toole and Louis. 2002: 11; King and Newmann. 2001: 29) ส่วนลักษณะการ
ร่วมกันทำงานของชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในโรงเรียนนั้นจำเป็นต้องสร้างโอกาสสำหรับครูในการ
ประชุมพบปะหารือและทำงานร่วมกันทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและรูปแบบที่ไม่เป็นทางการ ลักษณะ
เช่นนี้จะเกิดขึ้นได้โดยการสนับสนุนจากโครงสร้างภายในการจัดสรรเวลา จัดพื้นที่สำหรับการพบปะหารือ
และทำงานร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้การเข้าถึงความเชี่ยวชาญหรือความชำนาญการเป็น
่
เครื่องมือสำคัญสำหรับการสร้างชมชนการเรียนรู้ทางวิชาชพโดยใช้วิธีการที่หลากหลายรูปแบบ เชน การ
ี
ุ
ประชุมปฏิบัติการพัฒนาวิชาชีพที่เป็นทางการ การเยี่ยมชั้นเรียนโดยผู้เชี่ยวชาญ และการแลกเปลี่ยน
เรียนรู้สารสนเทศและแนวคิดใหม่ ๆ (Forde and others. 2006: 19 – 24)
้
การนำกระบวนการของชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพมาใชในการบริหารจัดการศึกษา ถือไดว่า
้
เป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานของครู ที่จะต้องมารวมตัว รวมใจ รวมพลัง ร่วมมือกันของครู
ผู้บริหาร และนักการศึกษา ในโรงเรียน เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งบางครั้งการ
เปลี่ยนแปลงก็ส่งผลทั้งในด้านบวกและด้านลบ ผลที่มีต่อโรงเรียนในด้านบวก คือ โรงเรียนมีการบริหาร
จัดการที่มีประสิทธิภาพ ครูมีความกระตือรือร้นในการทำงาน มีเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน แต่ในดาน
้
ลบ ครูผู้สอนอาจจะทำงานโดยที่ไม่มีความผูกพันต่อองค์กร ความพึงพอใจจะลดลงเรื่อย ๆ ดังนั้นการ
ู
์
รักษาครูที่มีคุณภาพให้อยู่กับองคกร จำเป็นที่จะต้องสร้างแรงจูงใจในการทำงาน รวมถึงสร้างความผกพัน
ในองค์กร อันจะส่งผลให้คนและงานเอื้อประโยชน์ต่อกัน สอดคล้องกับ ศุภวรรณ หลำผาสุข (2550: 7) ได ้
ู้
ู้
กล่าวไว้ว่าครูเป็นผที่มีบทบาทโดยตรงตอการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผเรียนเป็นสำคัญ การบริหารงาน
ของสถานศึกษาใหประสบผลสำเร็จหรือบรรลุวัตถุประสงค ผบริหารสถานศึกษาตองใหความสำคัญในการ
ู้
ุ
สร้างแรงจูงใจ สร้างบรรยากาศในการทำงาน ทสามารถกระตนใหครูเสียสละ อุทิศตน และทมเทใหกับ
ี่
ุ
งาน สนับสนุน สงเสริม และใหความช่วยเหลือในการปฏิบติงานของครู จนทำใหครู เกิดความพึงพอใจจน
ั
กลายเป็นความจงรักภักดี มีความรักและความผูกพันตอสถานศึกษา พรอมที่จะแสดงออกมาทั้งทางดาน
้
พฤติกรรมและจิตใจ